กรมการปกครอง เตรียมปรับยกเครื่องระบบการกำกับดูแลมูลนิธิทั่วประเทศ หวังอุดช่องโหว่การฟอกเงินและหลบเลี่ยงภาษี โดยเฉพาะประเด็นปัญหาเรื่องความโปร่งใสในการบริหารจัดการและการใช้จ่ายเงินของมูลนิธิต่างๆ ซึ่งเป็นประเด็นที่สังคมให้ความสนใจมาโดยตลอด
นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม อธิบดีกรมการปกครอง ได้เปิดเผยถึงแนวทางการยกระดับการกำกับดูแลมูลนิธิว่า กรมการปกครองได้เตรียมเสนอแก้ไขกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการจดทะเบียนและการดำเนินงานของมูลนิธิให้มีความรัดกุมมากยิ่งขึ้น โดยจะเน้นการตรวจสอบที่มาของเงินทุน การใช้จ่ายเงิน การบัญชี และการรายงานผลการดำเนินงานให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของการจัดตั้งมูลนิธิอย่างเคร่งครัด
“เราพบว่ายังมีมูลนิธิบางแห่งที่มีการดำเนินงานไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ที่ดีของกฎหมาย และอาจเป็นช่องทางในการฟอกเงินหรือหลีกเลี่ยงภาษีได้ ดังนั้น เราจึงต้องเร่งดำเนินการปรับปรุงระบบ เพื่อสร้างความโปร่งใสและตรวจสอบได้” นายชัยวัฒน์กล่าว พร้อมชี้แจงว่า จะมีการจัดตั้งคณะทำงานพิเศษเพื่อพิจารณากลไกการตรวจสอบที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพ รวมถึงการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการติดตามและกำกับดูแล
การปรับปรุงระเบียบในครั้งนี้ จะครอบคลุมถึงกระบวนการจดทะเบียนจัดตั้งมูลนิธิที่คาดว่าจะมีความเข้มงวดมากขึ้น โดยจะกำหนดให้มีการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ร่วมก่อตั้งและคณะกรรมการบริหารอย่างละเอียด รวมถึงการพิจารณาวัตถุประสงค์และแผนการดำเนินงานของมูลนิธิให้มีความชัดเจนและเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะอย่างแท้จริง นอกจากนี้ ยังได้มีการหารือถึงแนวทางการจัดทำ “ทะเบียนมูลนิธิออนไลน์” เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลและตรวจสอบสถานะของมูลนิธิได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว
แหล่งข่าวจากกรมการปกครอง คลองหลอด ระบุว่า การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่อป้องกันการนำมูลนิธิไปใช้ในทางที่ผิด และเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนผู้บริจาค โดยจะมีผลบังคับใช้หลังจากที่มีการประกาศในราชกิจจานุเบกษาอย่างเป็นทางการ ซึ่งคาดว่าจะเห็นความชัดเจนภายในปลายปีนี้.



